ดูแลตัวเองอย่างไร…เมื่อมีอาการชา ตามแบบแพทย์จีน

 

อาการชาเป็นอาการผิดปกติของระบบประสาท รับความรู้สึก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะที่นิ้ว มือ แขน เท้าหรือขา เป็นอาการที่มีความรู้สึกเจ็บ ปวด ร้อน หรือเย็นน้อยกว่าปกติหรือไม่มีความรู้สึกเลย บางคนอาจรู้สึกซ่าๆ ที่ปลายมือปลายเท้าหรือบริเวณอื่นหรือมีอาการเหมือนมีอะไรยุบยิบๆ ตามปลายมือปลายเท้า แล้วก็หายไปหรือเป็นตลอด ซึ่งอาการชาจะเกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทส่งความรู้สึกของบริเวณที่เป็น ทำงานบกพร่องไปแล้วอย่างน้อย50% โดยถ้าเส้นประสาทส่งความรู้สึกทำงานบกพร่องไปอย่างช้าๆ อาจไม่รู้สึกถึงความผิดปกติและมักตรวจพบได้ยาก แต่ถ้าเกิดการบกพร่องไปอย่างรวดเร็วจะเกิดอาการที่ชัดเจน

 

ในอีกกรณีอาจเกิดได้จากการตึงตัวของกล้ามเนื้อที่ไป
กดทับตรงหลอดเลือดทำให้เลือดไหลเวียนอย่างไม่เพียงพอ
ซึ่งในทางแพทย์จีน สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการชาจากการที่เลือดไหลเวียนได้ไม่คล่อง มาจาก ?

– ชี่พร่องจนทำให้เกิดภาวะเลือดคั่งในร่างกาย

– ความเย็นคั่งค้างจนทำให้การแข็งตัวของเลือดมากขึ้นจนเกิดเป็นลิ่มเลือดอุดตัน

– เสมหะหรือความชื้นในร่างกายหยุดค้างจนทำให้การไหลเวียนติดขัด

– อาหารที่มีความมัน จนทำให้เลือดในร่างกายถูกทำลาย

 

 

วิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้นถ้ามีอาการชา

– ให้ความอบอุ่น แช่น้ำอุ่นบริเวณช่วงมือและเท้าบ่อยๆ ขยับนิ้วมือในน้ำบ่อยๆ ถูมือให้เกิดความอุ่น

– เพิ่มการไหลเวียน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยืดหรือคลายกล้ามเนื้อบ่อยๆ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด

– บำรุงเพิ่มด้วยอาหาร รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงเลือดต่างๆ เช่น ตับฟักทอง แครอท มะเขือเทศ ถั่วเหลือง ถั่วแดง งาดำ เป็นต้น

 

 

หมอจีนมาแนะ!5 จุด แก้อาการมือ-เท้าชาในเบื้องต้น

1. จุดเหอกู่(合谷穴) จุดจะอยู่ที่ด้านหลังของมือ เป็นจุดที่อยู่ตรงกลางระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้

2. จุดโส่วซานหลี่(手三里穴) เมื่องอข้อศอก จุดจะอยู่ด้านหน้าต่ำกว่าข้อพับแขนประมาณ 3 นิ้วมือ

3. จุดซานอินเจียว (三阴交穴) จุดจะอยู่บริเวณขาด้านใน เหนือยอดตาตุ่มขึ้นมา 4 นิ้วมือ ชิดขอบหลังของกระดูกหน้าแข้ง

4. จุดไท่ชง (太冲穴) อยู่บริเวณหลังเท้าตรงแอ่งกระดูกระหว่างนิ้วหัวแม่เท้าและนิ้วชี้

5. จุดหย่งเฉวียน (涌泉穴) จุดอยู่กึ่งกลางใต้ฝ่าเท้า

 

*** แต่ละจุดใช้วิธีการนวดคลึงเบาๆ 1-3 นาที

***การดูแลเหล่านี้เป็นเพียงตัวช่วยในเบื้องต้น ถ้าคนไข้มีอาการมากและยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไปค่ะ

 

Share article :

บทความอื่น ๆ