“ปวดปลายประสาทหลังจากเป็นงูสวัด” …กับการรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน

 

ปวดปลายประสาทหลังจากเป็นงูสวัด (Postherpetic Neuralgia) เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยหลังเป็นงูสวัดของผู้ป่วยที่มีอายุเกิน 60 ปี มีลักษณะปวดลึกๆแบบปวดแสบปวดร้อนตลอดเวลา หรือปวดแปลบๆ ปวดเสียวเป็นพักๆ หรือปวดเมื่อถูกสัมผัสเพียงเบาๆ พบว่ายิ่งอายุมาก ยิ่งปวดรุนแรงและเป็นนาน มักจะหายได้เองภายใน 3-6 เดือน แต่บางรายอาจปวดนานเกิน 6 เดือนหรือหลายปี

 

 

ในทางการแพทย์แผนจีนอาการของการปวดปลายประสาทหลังจากเป็นงูสวัดจัดอยู่ในขอบเขตของ โรคงูสวัด(蛇串疮)โดยสาเหตุของการเกิดโรคงูสวัดส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักมีประวัติเครียด คิดมาก หรือมีพฤติกรรมการทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง เช่น การทานอิ่มมากเกินไปหรือทานน้อยเกินไป บวกกับพักผ่อนน้อย อดหลับอดนอน ทำให้เกิดภาวะชี่ของตับและม้ามผิดปกติ เกิดเป็นความร้อน และเมื่อถูกปัจจัยภายนอกมากระทบ เช่น ลมร้อน ลมเย็น ความชื้น จนทำให้เกิดงูสวัดเกิดขึ้น

นอกจากนี้ในผู้สูงอายุที่ร่างกายอ่อนแอมักมีภาวะเลือดน้อยตับแกร่ง ทำให้เกิดความร้อนชื้นสะสมภายใน เกิดภาวะ “เลือดคั่งจากชี่ติดขัด” อุดกั้นเส้นลมปราณ ทำให้เกิดอาการปวด ตามทฤษฎี “หากชี่เลือดเดินไม่สะดวกจะทำให้เกิดอาการปวด”

 

โดยการรักษาจะใช้การฝังเข็ม ร่วมกับยาจีน โดยจะเน้นการลดพิษ ขับร้อน ลดอาการปวด และกระตุ้นการไหลเวียนเลือดเป็นหลัก

 

Share article :

บทความอื่น ๆ